Workpoint News รายงานวันที่ 9 สิงหาคม 2562 สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีกรมการแพทย์แนะน้ำนมแม่คือวัคซีนหยดแรกช่วยปกป้องลูกจากการติดเชื้อและโรคภัยต่างๆพร้อมเผยบันได10 ขั้นในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในเด็กทารกและเด็กป่วย น้ำนมแม่เป็นยาที่คุ้มกันสารพัดโรคมีผลต่อพัฒนาการของสมองลดการติดเชื้อในเด็กป่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากอุจจาระร่วงลดโอกาสการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนล่างและลดความรุนแรงของอาการป่วยด้วยโรคหลอดลมฝอยอักเสบที่เกิดจากไวรัสRSV จึงควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย6 เดือนและหลัง6 เดือนให้กินนมแม่ควบคู่กับอาหารตามวัยจนอายุครบ2 ปี เด็กทารกและเด็กแรกเกิดที่จำเป็นต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลมีโอกาสถูกแยกแม่-ลูกหรือถูกสั่งให้งดนมแม่ด้วยเหตุผลต่างๆทำให้ขาดโอกาสที่จะได้รับน้ำนมแม่ซึ่งเป็นอาหารที่มีคุณค่าและมีความสำคัญที่สุดในชีวิตจึงควรสนับสนุนและหาวิธีที่จะช่วยให้แม่ได้มีส่วนร่วมในการเลี้ยงดูและรักษาลูกร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์ด้วยน้ำนมเมื่อเด็กทารกหรือเด็กป่วยแม่จะต้องปรับตัวและเรียนรู้ไปพร้อมๆกับลูกตั้งแต่เด็กเข้ารักษาที่โรงพยาบาลจนแข็งแรงกลับบ้านได้และแม่ต้องมีความพร้อมเมื่อออกไปดูแลลูกด้วยตนเองที่บ้านช่วงเวลาที่แม่อยู่กับลูกที่โรงพยาบาลจึงเป็นเวลาที่มีคุณค่ามากควรเปิดโอกาสให้อยู่กับลูกได้อย่างสะดวกและจัดกิจกรรมให้ได้มีโอกาสสัมผัสตัวลูกอย่างใกล้ชิด นายแพทย์อดิศัยภัตตาตั้งผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีเปิดเผยว่าสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีตระหนักถึงความสำคัญของการให้นมแม่ทั้งเด็กป่วยและเด็กปกติจึงได้จัดตั้งคลินิกนมแม่เพื่อส่งเสริมให้ทารกแรกเกิดป่วยได้กินนมแม่อย่างต่อเนื่องให้แม่อยู่กับลูกตลอด24 ชั่วโมงฝึกความพร้อมก่อนกลับบ้านบริการให้คำปรึกษาเรื่องการให้นมบุตร บันได10 ขั้นสำหรับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในเด็กป่วยดังนี้ บันไดขั้นที่1 การให้ข้อมูลนมแม่ในเด็กป่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับนมแม่กับบิดามารดาและครอบครัวของทารกตั้งแต่ระยะตั้งครรภ์ว่านมแม่มีประโยชน์อย่างไรและมีความจำเป็นมากสำหรับทารกและเด็กป่วยเน้นถึงคุณค่าของนมแม่ในแง่ของการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้กับทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อยและทารกป่วย
บันไดขั้นที่2 การกระตุ้นการหลั่งน้ำนมให้มาเร็วและต่อเนื่องแม่ต้องบีบน้ำนมทุก2-3 ชม. จำนวน8 ครั้งต่อวันเพื่อกระตุ้นการสร้างน้ำนมอย่างเต็มที่
บันไดขั้นที่3 การเก็บรักษาน้ำนม
บันไดขั้นที่4 การเคลือบช่องปากด้วยน้ำนมแม่การนำนมแม่เคลือบช่องปากลูกทุกๆ3 ชม.
บันไดขั้นที่5 ให้แม่โอบกอดลูกเนื้อแนบเนื้อเสริมสร้างความรักความผูกพันของแม่ลูกกระตุ้นการสร้างน้ำนมกระตุ้นให้น้ำนมมาเร็วทำให้ลูกได้รับหัวน้ำนมแม่เร็วขึ้นลูกดูดนมแม่ได้เร็วขึ้นสร้างความมั่นใจในการดูแลลูกเพิ่มภูมิคุ้มกันผ่านทางน้ำนมแม่
บันไดขั้นที่6 การดูดเต้าเปล่าเป็นการเตรียมพร้อมการดูดนมจากเต้าเปล่าโดยการบีบน้ำนมออก15 นาทีก่อนให้ลูกดูดนมแม่จากเต้าโดยตรงเริ่มฝึกให้ลูกดูดนมจากเต้า
บันไดขั้นที่7 การเปลี่ยนผ่านสู่การดูดนมจากเต้าควรให้ทารกได้เรียนรู้การดูดนมแม่
บันไดขั้นที่8 การวัดปริมาณน้ำนมที่ทารกได้รับจะช่วยยืนยันว่าทารกได้รับน้ำนมพอหรือไม่บันไดขั้นที่9 การเตรียมความพร้อมและสร้างความมั่นใจก่อนกลับบ้านได้เรียนรู้กับเหตุการณ์จริงที่จะเกิดขึ้นช่วยสร้างความมั่นใจให้แม่ที่จะกลับไปเลี้ยงลูกที่บ้าน
บันไดขั้นที่10 มีระบบติดตามดูแลแม่หลังจำหน่ายออกจากโรงพยาบาลติดตามภายหลังนำลูกกลับบ้านเพื่อสนับสนุนช่วยเหลือให้สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้อย่างต่อเนื่อง
|