สธ.คาดหวัด09ระบาดถึงกลางปี53ติดเชื้อพุ่ง10ล้าน |
|
|
Post by Administrator
|
พฤหัสบดี, 17 ธันวาคม 2009 |
สธ.ประชุมผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ เผย นักวิชาการคาด โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จะระบาดถึงกลางปี 2553 ขณะผู้ติดเชื้อทั่วโลกจะเพิ่มเป็น 10 ล้านคน ...
เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่กระทรวงมหาดไทย กทม. นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล เพื่อชี้แจงนโยบายเร่งด่วนในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด และ นายอำเภอทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดการบริการจัดการพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกล่าวว่า เรื่องด่วน ที่ต้องขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ดำเนินการ มี 3 เรื่อง เรื่องแรก ได้แก่ การป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 คาดว่า ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อ แล้วประมาณ 8.5 ล้านคน จะเพิ่มเป็น 10 ล้านคน ในปลายปี 2552 นักวิชาการคาดการณ์ว่า โรคจะระบาดไปจนถึงกลางปี 2553 ก่อนที่จะกลายเป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ในช่วงครึ่งเดือนแรกของเดือนธันวาคมนี้พบจำนวนผู้ป่วยอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ทั่วประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นพบมากใน 12 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ อ่างทอง แพร่ อุตรดิตถ์ ชลบุรี ชัยนาท ปทุมธานี พิจิตร ราชบุรี สมุทรสงคราม และสุโขทัย เป็นสัญญาณเตือนให้ทุกหน่วยงานต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อชะลอการแพร่ระบาด รวมทั้งโรคติดต่อประจำถิ่นอื่นๆ เช่น อุจจาระร่วง ไข้เลือดออกไข้ปวดข้อยุงลาย เนื่องจากได้กระจายอำนาจในการบริหารลงสู่ท้องถิ่นมากขึ้น และ ลักษณะการระบาดของโรคติดต่อต่างๆ ขยายวงกว้าง ต้องรณรงค์ให้ความรู้แก่ประชาชน ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคให้มากขึ้น นอกจากนี้ ขอให้เข้มงวดการดูแลความสะอาดสิ่งแวดล้อม ตามสถานที่สาธารณะ สถานบริการ ปั๊มน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่มีคนมารวมกันเป็นจำนวนมาก เช่น การประชุม คอนเสิร์ต การเข้าค่ายของนักเรียนนักศึกษา ขอให้จัดหาน้ำสะอาดและสบู่ เพื่อให้ผู้ใช้บริการ/ผู้ร่วมกิจกรรมได้ล้างทำความสะอาดมือบ่อยๆ และให้คนป่วยเป็นหวัด หยุดอยู่บ้าน 3-5 วัน ซึ่งจะช่วยทำให้ผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง หายป่วยเร็ว และลดการแพร่เชื้อโรคให้คนอื่นด้วย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เรื่องที่ 2 คือ การดำเนินงานโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งกระทรวงสาธารณสุข ในส่วนที่ได้งบประมาณตามพระราชกำหนด พ.ศ.2553 วงเงิน 11,515 ล้านบาท ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการทบทวนรายละเอียดรายการ และราคา เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี อนุมัติ โดยตามนโยบายได้กระจายอำนาจให้จังหวัดเป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง จึงขอความร่วมมือให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ดูแลควบคุมกำกับให้โปร่งใสทุกขั้นตอน และส่งผลการจัดซื้อจัดจ้างของจังหวัดให้กระทรวงสาธารณสุข เพื่อขออนุมัติเงินงวดทันวันที่ 30 มกราคม 2553 ตามที่ขอผ่อนผันกับกระทรวงการคลังไว้ และเรื่องสุดท้ายคือ การพัฒนาสถานีอนามัยทั่วประเทศทั้งหมด 9,810 แห่ง เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพิ่มคุณภาพบริการใกล้บ้าน เป้าหมายในปี 2552 ประมาณ 1,000 แห่ง และปี 2553 เพิ่มอีก 1,000 แห่ง ใช้การทำงานรูปแบบใหม่เน้นเชิงรุกส่งเสริมสุขภาพให้ประชาชนมีสุขภาพดี ลดการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง และโรคติดต่อ ขอความร่วมมือให้จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สนับสนุนงบประมาณดำเนินงานต่างๆ และผลิตบุคลากร ซึ่งขณะนี้ยังขาดแคลน 50 เปอร์เซ็นต์ มีเจ้าหน้าที่เฉลี่ยแห่งละประมาณ 3 คนจะต้องเพิ่มเป็น 5 - 10 คน ตามจำนวนประชากรที่รับผิดชอบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ.2552 |